ขอสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ Wi-Fi ที่อยู่ใกล้เคียง

แอปที่กําหนดเป้าหมายเป็น Android 13 (API ระดับ 33) ขึ้นไปและจัดการการเชื่อมต่อ Wi-Fi ควรขอNEARBY_WIFI_DEVICES สิทธิ์รันไทม์ สิทธิ์นี้ช่วยให้คุณอธิบายการเข้าถึงอุปกรณ์ Wi-Fi ที่อยู่ใกล้เคียงของแอปได้ง่ายขึ้น ใน Android เวอร์ชันเก่า แอปเหล่านี้จำเป็นต้องประกาศสิทธิ์ ACCESS_FINE_LOCATION แทน

สิทธิ์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง

สิทธิ์ NEARBY_WIFI_DEVICES เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสิทธิ์อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง กลุ่มนี้ซึ่งเพิ่มเข้ามาใน Android 12 (API ระดับ 31) ยังมีสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับบลูทูธและแถบความถี่กว้างยิ่งยวดด้วย เมื่อคุณขอสิทธิ์แบบผสมผสานจากกลุ่มสิทธิ์นี้ ระบบจะแสดงกล่องโต้ตอบรันไทม์รายการเดียวและขอให้ผู้ใช้อนุมัติการเข้าถึงอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงของแอป ในการตั้งค่าระบบ ผู้ใช้ต้องเปิดและปิดใช้สิทธิ์อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงเป็นกลุ่ม เช่น ผู้ใช้จะปิดใช้สิทธิ์เข้าถึง Wi-Fi แต่เปิดใช้สิทธิ์เข้าถึงบลูทูธสำหรับแอปหนึ่งๆ ไว้ไม่ได้

ยืนยันว่าแอปของคุณไม่ได้ดึงข้อมูลตำแหน่งจริง

เมื่อกำหนดเป้าหมายเป็น Android 13 ขึ้นไป ให้พิจารณาว่าแอปของคุณดึงข้อมูลตำแหน่งจาก Wi-Fi API หรือไม่ หากไม่ได้ดึงข้อมูล คุณควรยืนยันเรื่องนี้อย่างชัดเจน หากต้องการยืนยันนี้ ให้ตั้งค่าแอตทริบิวต์ usesPermissionFlags เป็น neverForLocation ในไฟล์ Manifest ของแอป ดังที่แสดงในข้อมูลโค้ดต่อไปนี้ กระบวนการนี้คล้ายกับที่คุณทำเมื่อยืนยันว่าจะไม่มีการใช้ข้อมูลอุปกรณ์บลูทูธเพื่อระบุตำแหน่ง

<manifest ...>
    <uses-permission android:name="android.permission.NEARBY_WIFI_DEVICES"
                     android:usesPermissionFlags="neverForLocation" />
    <application ...>
        ...
    </application>
</manifest>

เวอร์ชันก่อนหน้าและ API บางรายการต้องใช้สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่ง

Wi-Fi API บางรายการต้องใช้สิทธิ์ ACCESS_FINE_LOCATION แม้ว่าแอปของคุณจะกำหนดเป้าหมายเป็น Android 13 ขึ้นไปก็ตาม ตัวอย่างมีดังนี้ เมธอดจากคลาส WifiManager

นอกจากนี้ เนื่องจากสิทธิ์ NEARBY_WIFI_DEVICES พร้อมใช้งานใน Android 13 ขึ้นไปเท่านั้น คุณจึงควรเก็บประกาศสำหรับ ACCESS_FINE_LOCATION ไว้เพื่อให้แอปเข้ากันได้แบบย้อนหลัง อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่แอปไม่ได้ใช้ข้อมูลตำแหน่งที่แม่นยำ คุณก็ตั้งค่า SDK เวอร์ชันสูงสุดของสิทธิ์นี้ได้เป็น 32 ตามที่แสดงในตัวอย่างโค้ดต่อไปนี้

<manifest ...>
    <uses-permission android:name="android.permission.ACCESS_FINE_LOCATION"
                     android:maxSdkVersion="32" />
    <application ...>
        ...
    </application>
</manifest>

ตรวจสอบ API ที่ต้องได้รับสิทธิ์

หากแอปกำหนดเป้าหมายเป็น Android 13 ขึ้นไป คุณต้องประกาศสิทธิ์ NEARBY_WIFI_DEVICES เพื่อเรียกใช้ Wi-Fi API ต่อไปนี้

เวิร์กโฟลว์การเข้าถึง Wi-Fi

รูปที่ 1 แสดงเวิร์กโฟลว์การเข้าถึง Wi-Fi ในอุปกรณ์ที่ใช้ Android 13 ขึ้นไปสําหรับแอปที่กําหนดเป้าหมายเป็น Android 13 ขึ้นไป โปรดทราบว่าตราบใดที่คุณยืนยันว่าแอปไม่ได้ดึงข้อมูลตำแหน่งทางกายภาพจากข้อมูลอุปกรณ์ Wi-Fi คุณก็ไม่จําเป็นต้องประกาศสิทธิ์ ACCESS_FINE_LOCATION อีกต่อไป

รูปที่ 1 แผนภาพขั้นตอนเพื่อพิจารณาว่าแอปที่กำหนดเป้าหมายเป็น Android 13 (API ระดับ 33) ขึ้นไปสามารถเข้าถึงข้อมูล Wi-Fi ได้หรือไม่

รูปที่ 2 แสดงเวิร์กโฟลว์การเข้าถึง Wi-Fi ในอุปกรณ์ที่ใช้ 12L หรือต่ำกว่า โปรดทราบว่าต้องใช้สิทธิ์ ACCESS_FINE_LOCATION

รูปที่ 2 แผนภาพขั้นตอนเพื่อพิจารณาว่าแอปที่กำหนดเป้าหมายเป็น 12L (API ระดับ 32) หรือต่ำกว่าจะเข้าถึงข้อมูล Wi-Fi ได้หรือไม่