ระบุแอปของนักพัฒนาแอป

สำหรับกรณีการใช้งาน เช่น ข้อมูลวิเคราะห์หรือการป้องกันการประพฤติมิชอบในอุปกรณ์หนึ่งๆ คุณอาจต้องเชื่อมโยงการใช้งานหรือการดำเนินการในชุดแอปที่เป็นขององค์กรของคุณ บริการ Google Play มีตัวเลือกที่เคารพความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เรียกว่ารหัสชุดแอป

ขอบเขตของรหัสชุดแอป

รหัสชุดแอปอาจมีขอบเขตที่กำหนดอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ หากต้องการทราบว่ารหัสใดรหัสหนึ่งเชื่อมโยงกับขอบเขตใด ให้เรียกใช้ getScope()

ขอบเขตของนักพัฒนาแอป Google Play

สำหรับแอปที่ติดตั้งโดย Google Play Store นั้น App Set ID API จะแสดงรหัสที่กำหนดขอบเขตไว้สำหรับชุดแอปที่เผยแพร่ภายใต้บัญชีนักพัฒนาแอป Google Play เดียวกัน

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเผยแพร่แอป 2 แอปภายใต้บัญชีนักพัฒนาแอป Google Play และติดตั้งแอปทั้ง 2 แอปในอุปกรณ์เครื่องเดียวกันผ่าน Google Play Store แอปจะใช้รหัสชุดแอปเดียวกันในอุปกรณ์นั้น รหัสจะเหมือนกัน แม้ว่าแอปจะเซ็นด้วยคีย์ที่ต่างกัน

ขอบเขตของแอป

ในกรณีใดก็ตามต่อไปนี้ SDK ของรหัสชุดแอปจะแสดงรหัสที่ไม่ซ้ำกัน สำหรับแอปที่เรียกใช้เองในอุปกรณ์ที่กำหนด

  • แอปได้รับการติดตั้งโดยโปรแกรมติดตั้งอื่นที่ไม่ใช่ Google Play Store
  • บริการ Google Play ไม่สามารถระบุบัญชีนักพัฒนาแอป Google Play ของแอปได้
  • แอปติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ที่ไม่มีบริการ Google Play

อย่าใช้ค่าที่แคชไว้ของรหัสชุดแอป

ระบบจะรีเซ็ตรหัสชุดแอปสำหรับชุดแอปที่ติดตั้งจาก Google Play Store บนอุปกรณ์ได้ในกรณีต่อไปนี้

  • กลุ่มแอปที่แชร์ค่ารหัสเดียวกันไม่ได้เข้าถึง App Set ID API มานานกว่า 13 เดือนแล้ว
  • ระบบจะถอนการติดตั้งแอปสุดท้ายจากชุดแอปที่กำหนดออกจากอุปกรณ์
  • ผู้ใช้รีเซ็ตอุปกรณ์เป็นค่าเริ่มต้น

แอปของคุณควรใช้ SDK เพื่อดึงค่ารหัสทุกครั้งที่จำเป็น

เพิ่ม SDK รหัสชุดแอปไปยังแอป

ข้อมูลโค้ดต่อไปนี้แสดงตัวอย่างไฟล์ build.gradle ที่ใช้ไลบรารีรหัสชุดแอป

dependencies {
    implementation 'com.google.android.gms:play-services-appset:16.1.0'
}

ตัวอย่างโค้ดต่อไปนี้แสดงวิธีดึงข้อมูลรหัสชุดแอป แบบไม่พร้อมกันโดยใช้ Tasks API ในบริการ Google Play

Kotlin

val client = AppSet.getClient(applicationContext) as AppSetIdClient
val task: Task<AppSetIdInfo> = client.appSetIdInfo as Task<AppSetIdInfo>

task.addOnSuccessListener({
    // Determine current scope of app set ID.
    val scope: Int = it.scope

    // Read app set ID value, which uses version 4 of the
    // universally unique identifier (UUID) format.
    val id: String = it.id
})

Java

Context context = getApplicationContext();
AppSetIdClient client = AppSet.getClient(context);
Task<AppSetIdInfo> task = client.getAppSetIdInfo();

task.addOnSuccessListener(new OnSuccessListener<AppSetIdInfo>() {
    @Override
    public void onSuccess(AppSetIdInfo info) {
        // Determine current scope of app set ID.
        int scope = info.getScope();

        // Read app set ID value, which uses version 4 of the
        // universally unique identifier (UUID) format.
        String id = info.getId();
    }
});